“เน็ท กานดา” เผยอาการ “คิว วงฟลัว” สมอง - ร่างกายฟื้นตัวอย่างน่าอัศจรรย์ คาดอีก 1 เดือนกลับบ้านได้ ฟุ้งแพทย์ชื่นชมมีความโชคดีในความโชคร้ายสมองไม่ได้รับการกระทบกระเทือน แต่ยังต้องเยียวยาจิตใจ เปิดใจไม่เอาเรื่องคู่กรณี บอกอโหสิกรรมให้
       
       จากกรณีที่ “นายสุวีระ บุญรอด” หรือ “คิว” นักร้องนำวงฟลัว ประสบอุบัติเหตุถูกรถมอเตอร์ไซค์ชน ขณะข้ามถนนในซอยทองหล่อจนสลบคาที่ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องผ่าตัดสมองด่วน จนพ้นขีดอันตราย แต่ต้องเฝ้าดูอาการสมองบวมตลอด 24 ชม. ซึ่งแพทย์ที่ทำการรักษาเผยว่าถ้ามาช้ากว่านี้อีกนิด เจ้าตัวอาจเสียชีวิตได้
       
       ล่าสุด “เน็ท กานดา วิทยานุภาพยืนยง” แฟน นักร้อง ดังได้เปิดใจถึงความคืบหน้าอาการ โดยเจ้าตัวเผยระหว่างมาร่วมพิธีบวงสรวงละครเวที Musical Musicals ณ สวนหน้าโรงละคร เคแบงก์สยามพิฆเนศ สยามสแควร์วัน รับอาการดีขึ้น แต่ต้องเยียวยาจิตใจ และไม่เอาเรื่องคู่กรณี
       
       “ตอนนี้ ทุกอย่างดีขึ้นแล้วค่ะ กำลังอยู่ในช่วงพักฟื้น หลังจากที่ผ่าตัดไป 3 ส่วน คือสมอง ไหปลาร้า และก็หัวเข่า สมองจะเป็นส่วนที่ผ่าตัดตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุ ตอนนี้ก็ดีขึ้นมากแล้ว คุณหมอได้นำเลือดที่คั่งอยู่ออกไปแล้ว เหลือแต่บำรุง เหลือพักฟื้นที่ผ่าตัดไหปลาร้ากับเข่า ต้องให้เวลาในการที่จะให้กระดูกกลับมาเชื่อมติดกันประมาณ 1 - 2 เดือนกว่าที่จะลงน้ำหนักเดินได้”
       
       “ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเลยค่ะ ตอนนี้หน้าที่ของคุณหมอหมดแล้ว เหลือ แต่การดูแลตัวเองของพี่คิวที่ต้องใช้เวลาพักฟื้น ด้วยความที่คนมันไม่เคยเป็น ไม่เคยประสบอุบัติเหตุหรือผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน เขาก็ตั้งรับไม่ทัน ก็อาจจะมีอาการตกใจบ้าง จะทำยังไงต่อไปดี ก็ต้องเหมือนมีสติอยู่กับสภาพร่างกายตัวเองตอนนี้ จากที่เคยเดินเหินทำอะไรได้มันก็ไม่ปกติเหมือนเดิมแต่มันก็ไม่ได้เป็นอย่าง นี้ตลอดไป แค่ช่วงระยะเวลา 1 - 2 เดือน”
       
       สมองกลับมาเหมือนเดิม 100 เปอร์เซ็นต์ บอกเป็นเคสที่หนักแต่น่าอัศจรรย์ใจที่สมองไร้ปัญหา
       “ใช่ ค่ะกลับมา 100 เปอร์เซ็นต์ วันที่เกิดเหตุพี่คิวแค่สลบไปแป๊บหนึ่งแล้วก็ตื่นมาเล่นมุกได้ ก่อนเข้าห้องผ่าตัดใหญ่ยังพูดคุยได้ปกติ ออกมาจากห้องผ่าตัดก็คุยได้ปกติ มัน เป็นเรื่องมหัศจรรย์มากสำหรับตัวเขา ขนาดคุณหมอยังบอกเลยว่าจริง ๆ มันเป็นเคสหนักนะ กับการโดนกระแทกแรง ๆ จนเลือดออกในสมอง แต่เขากลับยังมีสติสัมปชัญญะการควบคุมของสมองเขายังเป็นไปได้ดี ไม่ได้มีอาการลืมเลือนหรืออะไรเลยสักนิดเดียว”
       
       “เขาไม่มีปัญหาเลยค่ะ ตอนแรกคนในบ้านก็ถามนะว่าจำได้มั้ย คนนี้ใคร จำพี่จำแม่จำน้องได้มั้ยเขาก็บอกว่าจำได้ มันตลกตรงที่ก่อนจะเข้าห้องผ่าตัดเขาก็ยังบอกจะไปซ้อมละครอยู่เลย คือยังมีห่วง”
       
       ร่างกายไร้ปัญหา แต่สภาพจิตใจต้องเยียวยา
       “ตอนนี้เหลือในเรื่องของจิตใจค่ะ เพราะเอาตรง ๆ ตัวเขาเองก็เสียดายเหมือนกันที่ไม่ได้เล่นละครเวทีเรื่องนี้ มันเป็นสิ่งที่เขารักมาก เขาตั้งใจมา 3 เดือนเต็ม ๆ แต่เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องที่ควบคุมไม่ได้ เราปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ”
       
       “ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลก่อน ถ้ากลับบ้านหมอเขาให้มาทำกายภาพวันละ 2 ครั้ง เช้า - บ่าย อยู่ที่โรงพยาบาลไปแล้วกันจะได้เดินทางสะดวก ตอนนี้ก็อยู่โรงพยาบาลมา 2 อาทิตย์กว่า ๆ แล้ว”
       
       “เขา ก็บ่นอยากกลับบ้านเป็นปกติเลยค่ะ (หัวเราะ) ที่เราคอยไปหาไปเฝ้าไปดูแลเพราะเราห่วงเรื่องสภาพจิตใจเขามากกว่า เรื่องร่างกายสุดท้ายเขาก็ทำงานของเขาได้ตามธรรมชาติของร่างกาย แต่เรื่องจิตใจมันก็จำเป็นที่จะต้องได้รับการเยียวยานิดหนึ่ง เขาก็เบื่อ ๆ แหละที่เขาไม่ได้ทำอะไร แต่เขาเองก็พูดเหมือนกันนะว่าได้พักบ้างก็ ดี เป็นแบบนี้บ้างก็ดีเผื่อบางทีจะได้คิดอะไรได้บ้างในชีวิต ไม่ใช้ชีวิตอย่างประมาท มีสมาธิกับตัวเองมากขึ้น ซึ่งคุณหมอก็บอกว่ากินได้เต็มที่เลย อยากกินอะไรก็กิน ตอนนี้คือกินไม่เลือก กินขนมเยอะมาก”
       
       ไม่เอาเรื่องคู่กรณี ขออโหสิกรรมให้
       “จริง ๆ กับทางคู่กรณีเราไม่ได้ติดใจหรือคิดจะเอาเรื่องอะไรเลยค่ะ เพราะ เราเองก็รู้ว่าแต่ละฝ่ายต่างก็ได้รับผลกระทบเหมือน ๆ กัน ดังนั้น เราก็เลยไม่อยากที่จะเอาเรื่องอะไร จากนี้ต่างคนต่างอยู่ดีกว่า เราอโหสิให้ คือ เรามองว่าสิ่งที่ตัวเขาได้รับมันก็หนักหนาอยู่แล้ว ฉะนั้นก็ปล่อยเขาไปดีกว่าค่ะ”
       
       “เรื่องของคดีความน่าจะเป็นเรื่องของตำรวจนะคะ เพราะ มันเป็น คดีอาญา เป็นคดีที่ยอมความไม่ได้ ดังนั้น ก็คงต้องปล่อยหน้าที่ให้เป็นของตำรวจไป ส่วนตัวเราเองเราก็แค่อยากรู้ความจริงว่าตอนนั้นมันเกิดอะไรขึ้น เพราะช่วงที่เกิดขึ้นไม่มีใครเห็นเหตุการณ์เลยนอกจากคนที่อยู่แถวนั้น ก็จะได้ยินเรื่องราวจากปากของเจ้าตัวเองแล้วก็คนแถวนั้น”
       
       “เขาได้ โทร.คุยค่ะ และก็บอกด้วยว่าอยากที่จะมาแสดงความขอโทษ แต่เราเชื่อว่าหน้าที่การงานของเขา ณ ตอนนี้ สิ่งที่เขาเจอทำให้เขาไม่สามารถมาขอโทษด้วยตัวเองได้ ก็พยายามเข้าใจในจุดที่เขาอยู่”
       
       ร่างกายฟื้นตัวเร็ว คาดอีก 1 เดือนได้กลับบ้าน
       “ยังไม่แน่ใจเลยค่ะ แต่ทุกวันที่เขาอยู่โรงพยาบาล ณ ตอนนี้ คุณ หมอก็เริ่มให้ทำกายภาพบำบัดแล้ว ซึ่งมันก็เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ เราเห็นว่าร่างกายเขาฟื้นตัวเร็วมาก ๆ ดังนั้นไม่น่าจะเกินอีกเดือนหนึ่งคงได้กลับบ้าน แต่เรื่องกายภาพบำบัดคงต้องมาทำตลอด”
       
       “อีก ไม่นาน ไม่เกิน 1 - 2 เดือน ทุกคนจะได้เห็นผลงานของพี่คิวแน่นอนค่ะ ตอนนี้เขาเองก็เริ่มที่จะกลับมาปกติแล้ว เหลือแค่เวลาในการดูแลตัวเองเท่านั้นเอง เรื่องแคนเซิลงานก็ไม่ทราบเหมือนกัน เรื่องนี้ต้องถามทางผู้จัดการดีกว่า แต่ส่วนตัวแล้วเราทุกคนเสียดายละครเวทีเรื่องนี้มากเพราะเขาเล่นได้ดี แต่ก็ไม่เป็นไร เราก็หวังว่าจะมีละครเวทีเรื่องต่อให้พี่คิวได้ทำ หน้าที่นี้อีก ส่วนช่วงนี้ก็ให้เขาอดทนไปก่อน ไว้พอถึงวันที่ละครเปิดแสดงเราอาจจะได้เห็นพี่เขานั่งวีลแชร์ไปดู”

ที่มา : manager.co.th